❌ อยากขายคอนโดให้นักลงทุน แต่ไม่มีใครสนใจ?
✅ ทำไมบางคอนโดขายออกไว ในขณะที่บางห้องติดดอย?
✅ นักลงทุนมองหาอะไร ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด?
✅ คุณสามารถทำให้คอนโดของคุณเป็นตัวเลือกที่ “นักลงทุนอยากซื้อ” ได้อย่างไร?
🔥 หากคุณต้องการขายคอนโดให้นักลงทุน และอยากปิดดีลให้เร็วขึ้น → บทความนี้จะบอกทุกเทคนิคที่ใช้ได้จริง! 🚀
📌 7 กลยุทธ์ดึงดูดนักลงทุนให้ซื้อคอนโดของคุณ!
1️⃣ ตั้งราคาขายให้ “ลงทุนแล้วคุ้มค่า” 💰
✅ นักลงทุนไม่ได้มองแค่ราคาถูก แต่พวกเขามอง “ศักยภาพการทำกำไร”
✅ คำนวณ Capital Gain (กำไรจากการขาย) และ Rental Yield (กำไรจากค่าเช่า)
✅ ตั้งราคาให้ ต่ำกว่าตลาดเล็กน้อย 3-5% เพื่อดึงดูดนักลงทุน
📌 ตัวอย่าง:
❌ ตั้งราคาขายสูงกว่าตลาด 10% → นักลงทุนมองว่าไม่คุ้มค่า
✅ ตั้งราคาขายต่ำกว่าตลาดเล็กน้อย → นักลงทุนมองว่าเป็นโอกาสทำกำไร
📌 Tip: ลองเช็กราคาตลาดใน DDproperty, LivingInsider แล้วตั้งราคาที่ดึงดูดนักลงทุน
2️⃣ แสดงข้อมูล Rental Yield ชัดเจน – ให้รู้ว่าปล่อยเช่าแล้วได้กำไร! 📊
✅ นักลงทุนสนใจ อัตราผลตอบแทนจากค่าเช่า (Rental Yield) มากกว่าราคาขาย
✅ Rental Yield = (ค่าเช่ารายปี ÷ ราคาซื้อ) × 100
✅ คอนโดที่น่าสนใจควรมี Rental Yield 5-7% ต่อปีขึ้นไป
📌 ตัวอย่าง:
- คอนโดปล่อยเช่าเดือนละ 12,000 บาท
- ราคาขาย 2,500,000 บาท
📌 Rental Yield = (12,000 × 12) ÷ 2,500,000 × 100 = 5.76%
✅ แสดงตัวเลขนี้ในประกาศขาย → นักลงทุนจะสนใจมากขึ้น!
📌 Tip: ทำให้เห็นชัดเจนว่าคอนโดของคุณ “ซื้อแล้วปล่อยเช่าคุ้ม”
3️⃣ ชี้ให้เห็นว่าอนาคตคอนโดมีโอกาสราคาขึ้น (Capital Gain) 📈
✅ นักลงทุนต้องการรู้ว่า “ซื้อวันนี้ ราคาจะขึ้นในอนาคตไหม?”
✅ ให้ข้อมูล โครงการพัฒนาเมือง, รถไฟฟ้าสายใหม่, แผนขยายถนน หรือห้างที่กำลังก่อสร้าง
✅ ทำเลที่มี Capital Gain สูง = นักลงทุนยอมซื้อแม้ราคาแพง
📌 ตัวอย่าง:
❌ ขายคอนโดโดยไม่ให้ข้อมูล → นักลงทุนมองว่าไม่มีศักยภาพ
✅ บอกว่า “BTS สายใหม่กำลังสร้าง ห่างคอนโด 300 ม.” → นักลงทุนสนใจทันที!
📌 Tip: ศึกษาข้อมูลจากแผนพัฒนาเมืองของรัฐ แล้วใช้เป็นจุดขาย
4️⃣ เสนอแพ็กเกจ “คอนโดพร้อมปล่อยเช่า” ให้นักลงทุน 🔑
✅ นักลงทุนบางคนต้องการซื้อคอนโด แบบไม่ต้องจัดการเอง
✅ เสนอ แพ็กเกจที่รวมผู้เช่าอยู่แล้ว หรือบริการหาผู้เช่าให้
✅ ถ้ามีนายหน้าหรือเอเจนซี่ดูแลปล่อยเช่าให้ → นักลงทุนจะสนใจมากขึ้น
📌 ตัวอย่าง:
❌ ขายคอนโดแบบทั่วไป → นักลงทุนต้องหาผู้เช่าเอง
✅ ขายคอนโดพร้อมผู้เช่า หรือ ฟรีบริการปล่อยเช่า 6 เดือนแรก → นักลงทุนซื้อเร็วขึ้น!
📌 Tip: นักลงทุนต้องการความง่าย → ถ้าคุณจัดการให้ โอกาสขายออกจะสูงขึ้น!
5️⃣ แสดงหลักฐานว่า “ห้องนี้ปล่อยเช่าง่าย” 🏠
✅ นักลงทุนต้องการคอนโดที่มีดีมานด์สูง เพื่อให้ปล่อยเช่าได้ไว
✅ ถ้ามีข้อมูลว่าห้องนี้มี ผู้เช่าตลอด, เช่าออกเร็ว, หรือค่าเช่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยในโครงการ → ใช้เป็นจุดขาย!
✅ ใช้รีวิวจากผู้เช่าเดิม หรือแสดงสถิติการปล่อยเช่าของโครงการ
📌 ตัวอย่าง:
❌ “คอนโดนี้ให้เช่าได้” → ✅ “คอนโดนี้ปล่อยเช่าไม่เคยเกิน 1 เดือน มีคนจองล่วงหน้าเสมอ!”
📌 Tip: โชว์ให้เห็นว่า “ซื้อตอนนี้ = ได้รายได้ทันที!”
6️⃣ ใช้การตลาดให้เข้าถึงนักลงทุนโดยตรง 🎯
✅ ลงประกาศขายในกลุ่ม นักลงทุนอสังหาฯ ใน Facebook
✅ ใช้ Facebook Ads หรือ Google Ads เจาะกลุ่มคนที่สนใจลงทุน
✅ ส่งตรงไปยังนายหน้าอสังหาฯ ที่ดูแลนักลงทุน
📌 ตัวอย่าง:
❌ ลงแค่ใน Marketplace → นักลงทุนไม่เห็นประกาศของคุณ
✅ ลงในกลุ่มนักลงทุน + ยิงแอด + ส่งให้เอเจนซี่ → นักลงทุนเห็นและสนใจมากขึ้น
📌 Tip: การตลาดที่ถูกกลุ่มเป้าหมาย = คอนโดของคุณขายออกเร็วขึ้น!
7️⃣ สร้างความเร่งด่วน – ทำให้นักลงทุนกลัวพลาดโอกาส! ⏳
✅ นักลงทุนจะรีบตัดสินใจ ถ้าพวกเขารู้สึกว่า “ถ้าช้า อาจไม่ได้ดีลนี้”
✅ ใช้เทคนิค Scarcity (ของมีจำกัด) เช่น
- “มีแค่ 2 ห้องในราคานี้!”
- “ราคานี้เฉพาะเดือนนี้เท่านั้น!”
- “มีนักลงทุนอีก 2 คนที่กำลังพิจารณาห้องนี้อยู่!”
📌 ตัวอย่าง:
❌ “สนใจสอบถามได้นะครับ” → ✅ “ราคานี้สำหรับคนที่จองภายใน 7 วันเท่านั้น!”
📌 Tip: ถ้าทำให้เกิดความรู้สึก “ถ้าไม่ซื้อวันนี้ อาจพลาดโอกาสดีๆ” → นักลงทุนจะรีบตัดสินใจ!
📌 สรุป: วิธีดึงดูดนักลงทุนให้ซื้อคอนโดของคุณ!
✅ ตั้งราคาขายให้ดึงดูดนักลงทุน → ต่ำกว่าตลาด 3-5% เพื่อให้ดูเป็นโอกาสทำกำไร
✅ โชว์ Rental Yield และศักยภาพการปล่อยเช่า → ทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าซื้อแล้วคุ้ม
✅ ให้ข้อมูล Capital Gain → บอกอนาคตทำเลว่าราคาจะขึ้น
✅ เสนอแพ็กเกจคอนโดพร้อมปล่อยเช่า → นักลงทุนที่ไม่อยากจัดการเองจะซื้อเร็วขึ้น
✅ แสดงหลักฐานว่าคอนโดนี้ปล่อยเช่าง่าย → เช่น รีวิวผู้เช่าเดิม หรือสถิติการปล่อยเช่า
✅ ทำการตลาดให้เข้าถึงนักลงทุน → ลงประกาศในกลุ่มอสังหาฯ และใช้โฆษณาเจาะกลุ่มเป้าหมาย
✅ ใช้เทคนิคเร่งการตัดสินใจ → ทำให้นักลงทุนกลัวพลาดโอกาส
📌 ใช้กลยุทธ์เหล่านี้ → คอนโดของคุณจะขายออกไวขึ้น และได้ราคาดีที่สุด! 🚀