❌ ลงทุน Flipping คอนโดแบบไม่วางแผน = ติดดอย ขายไม่ออก!
นักลงทุนคอนโดมือใหม่ มักทำพลาดโดยไม่รู้ตัว
✅ ซื้อคอนโดในทำเลที่ไม่มีดีมานด์ → ขายไม่ออก
✅ คำนวณต้นทุนพลาด → สุดท้ายแทบไม่มีกำไร
✅ รีโนเวทมากเกินไป → เงินจม ขายแพงแต่ไม่มีคนซื้อ
🔥 แต่คุณสามารถหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้ และทำกำไรได้ง่ายขึ้น!
มาดู 7 ข้อผิดพลาดที่มือใหม่ Flipping คอนโดมักทำ และวิธีหลีกเลี่ยง! 🚀
📌 7 ข้อผิดพลาดที่มือใหม่ Flipping คอนโดต้องหลีกเลี่ยง
1️⃣ ซื้อคอนโดผิดทำเล – ไม่มีดีมานด์ ขายไม่ออก 📍
✅ หลายคนเลือกคอนโดแค่เพราะราคาถูก แต่ลืมดูว่ามีคนอยากซื้อไหม
✅ ทำเลที่ดี ต้องมีคนต้องการอยู่จริง → ใกล้รถไฟฟ้า, แหล่งงาน, มหาวิทยาลัย
📌 ตัวอย่างข้อผิดพลาด:
❌ ซื้อคอนโดไกล รถไฟฟ้าเข้าถึงยาก → ขายต่อยาก
✅ เลือกคอนโดใกล้ BTS/MRT หรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย → ขายไวกว่า
📌 วิธีหลีกเลี่ยง:
✅ เช็กทำเลจาก DDproperty, LivingInsider ดูว่ามีการซื้อ-ขายเยอะไหม
✅ ถามนายหน้าว่า ทำเลนี้ขายออกเร็วไหม?
2️⃣ ซื้อคอนโดแพงเกินไป – กำไรแทบไม่มี 💰
✅ หลายคนซื้อคอนโด ในราคาตลาด หรือสูงกว่าตลาด → ไม่มีช่องว่างทำกำไร
✅ นักลงทุน Flipping ต้องซื้อถูกกว่าตลาด 10-20%
📌 ตัวอย่างข้อผิดพลาด:
❌ ซื้อคอนโด 2,500,000 บาท → ต้นทุนรวม 2,700,000 → ขายได้ 2,800,000 → กำไรน้อยมาก!
✅ ซื้อคอนโด 2,200,000 บาท → ต้นทุนรวม 2,400,000 → ขายได้ 2,800,000 → กำไร 400,000!
📌 วิธีหลีกเลี่ยง:
✅ หาดีลราคาถูกจาก เจ้าของรีบขาย / ประมูลทรัพย์ธนาคาร (NPA) / นักลงทุนที่ต้องการขายต่อ
✅ เช็กว่าคอนโดที่ซื้อ มีราคาต่ำกว่าตลาดจริงๆ หรือไม่
3️⃣ รีโนเวทมากเกินไป – ต้นทุนบานปลาย 🛠️
✅ มือใหม่มัก รีโนเวทเยอะเกินความจำเป็น → ต้นทุนสูง แต่เพิ่มราคาขายได้นิดเดียว
✅ รีโนเวทเฉพาะ สิ่งที่เพิ่มมูลค่าให้คอนโด เช่น เปลี่ยนไฟ, ทาสี, ปรับพื้น
📌 ตัวอย่างข้อผิดพลาด:
❌ รีโนเวทห้องใหม่หมด → ใช้งบ 300,000 บาท → ขายแพงขึ้นได้แค่ 200,000 บาท → ขาดทุน!
✅ รีโนเวทเฉพาะจุด เช่น ทาสีใหม่, เปลี่ยนไฟ, ปรับพื้น → ใช้งบ 50,000 บาท → ขายได้ราคาสูงขึ้น 150,000 บาท!
📌 วิธีหลีกเลี่ยง:
✅ วางงบรีโนเวทให้ไม่เกิน 10-15% ของราคาคอนโด
✅ ใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว แทน Built-in เพื่อลดต้นทุน
4️⃣ ตั้งราคาขายผิด – แพงเกินไปหรือต่ำเกินไป 💵
✅ ถ้าตั้งราคาขายสูงเกินไป ไม่มีคนสนใจ → คอนโดขายไม่ออก
✅ ถ้าตั้งราคาต่ำเกินไป กำไรหาย ขาดทุน
📌 ตัวอย่างข้อผิดพลาด:
❌ ตั้งราคาสูงกว่าตลาด 10% → ขายไม่ออก → สุดท้ายต้องลดราคาทีหลัง
✅ ตั้งราคาต่ำกว่าตลาด 3-5% → มีคนสนใจเยอะ → ปิดการขายเร็ว
📌 วิธีหลีกเลี่ยง:
✅ ใช้ DDproperty, Kaidee เช็กราคาตลาด ก่อนตั้งราคาขาย
✅ ใช้จิตวิทยาตั้งราคา เช่น 2,990,000 แทน 3,000,000
5️⃣ ไม่คำนวณต้นทุนทั้งหมด – กำไรที่เห็น อาจไม่ใช่กำไรจริง 📊
✅ หลายคนคิดว่า กำไร = ราคาขาย – ราคาซื้อ → แต่ลืมรวมต้นทุนอื่นๆ
✅ ต้องรวม ค่าโอน, ภาษี, ค่าส่วนกลาง, ค่าการตลาด, ค่าปรับปรุง
📌 ตัวอย่างข้อผิดพลาด:
❌ คิดว่าขายได้ 2,800,000 บาท กำไร 300,000 → แต่ลืมนับต้นทุนแฝง → กำไรจริงเหลือ 100,000 เท่านั้น!
📌 วิธีหลีกเลี่ยง:
✅ ใช้สูตร ราคาขาย – ต้นทุนทั้งหมด = กำไรจริง ก่อนตัดสินใจลงทุน
6️⃣ ลงประกาศขายแบบธรรมดา – ไม่มีคนเห็น 📢
✅ มือใหม่มักลงประกาศขายแค่ เว็บเดียว หรือในกลุ่มเล็กๆ → ทำให้หาลูกค้าช้า
✅ ต้องใช้ Facebook Ads, Google Ads, เว็บไซต์อสังหาฯ เพื่อให้คนเห็นเยอะขึ้น
📌 ตัวอย่างข้อผิดพลาด:
❌ ลงแค่ 1 เว็บไซต์ → คนเห็นน้อย ขายช้า
✅ ลง 5+ แพลตฟอร์ม + ยิงแอด → คนเห็นเยอะ ขายไว
📌 วิธีหลีกเลี่ยง:
✅ ลงประกาศใน DDproperty, LivingInsider, Kaidee, Facebook Marketplace
✅ ใช้ Facebook Ads & Google Ads ยิงโฆษณาให้กลุ่มเป้าหมาย
7️⃣ ไม่มีเทคนิคปิดการขาย – ลูกค้าสนใจ แต่ไม่ตัดสินใจซื้อ 🤝
✅ ลูกค้าหลายคน ชอบคอนโดแล้ว แต่ไม่ตัดสินใจซื้อทันที
✅ ต้องใช้ จิตวิทยาการขาย เช่น
- “มีอีก 2 คนสนใจห้องนี้อยู่ ถ้าคุณสนใจ รีบจองก่อนราคาขึ้น!”
- “ถ้าจองวันนี้ ผมช่วยออกค่าโอนให้ทั้งหมด!”
📌 วิธีหลีกเลี่ยง:
✅ เร่งการตัดสินใจลูกค้า ด้วยข้อเสนอพิเศษ + สร้างความเร่งด่วน
📌 สรุป: หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด เพื่อทำกำไรจาก Flipping คอนโด!
✅ เลือกทำเลที่มีดีมานด์จริง → ไม่ใช่แค่ราคาถูก
✅ ซื้อในราคาต่ำกว่าตลาด → เพื่อให้มีช่องว่างกำไร
✅ รีโนเวทแค่จุดที่เพิ่มมูลค่า → ไม่ใช่ทุ่มงบเกินไป
✅ ตั้งราคาขายให้ดึงดูด → ต่ำกว่าตลาด 3-5% เพื่อให้ขายไว
✅ คำนวณต้นทุนทั้งหมดก่อนซื้อ → ห้ามลืมค่าใช้จ่ายแฝง
✅ ลงประกาศขายหลายแพลตฟอร์ม → ใช้โฆษณาให้คนเห็นเยอะขึ้น
✅ ใช้เทคนิคปิดการขาย → ให้ลูกค้าตัดสินใจเร็วขึ้น!
📌 หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้ → การทำ Flipping คอนโดของคุณจะได้กำไรสูง และขายออกไว! 🚀